นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง แถลงผลการประชุมครม.ถึงมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 ว่า ครม.ได้อนุมัติ พ.ร.ก. 2 ฉบับโดยงบประมาณทั้งหมดที่จะใช้เยียวยามีทั้งหมด 1,900,000 ล้านบาทโดยเป็น พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท และพ.ร.ก.ให้อำนาจ ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกสินเชื้อ ดูแลผู้ประกอบการรายเล็ก 5 แสนล้านบาท และดูแลภาคการเงิน 4 แสนล้านบาท

พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท โดยนำมาใช้ในแผนงานด้านสาธารณสุขและแผนงานเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบวัตถุประสงค์ คือ 6 แสนล้านบาท เยียวยาประชาชน 6 เดือน อาชีพเกษตรกร ดูแลด้านสาธารณสุข และแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมโดยครอบคลุมโครงการดูแลสนับสนุนเศรษฐกิจในพื้นที่ 4 แสนล้านบาท โดยสนับสนุนและสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจชุมชน สำหรับเงินเยียวยา จำนวน 5 พันบาท ประชาชนผู้รับผลกระทบโควิด-19 ที่ได้ลงทะเบียนแล้วในโครงการเราไม่ทิ้งกัน เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยจะจ่ายต่อไปอีก 3 เดือน เป็น 6 เดือน คือจ่ายถึงเดือน ก.ย. และจะดูแลในภาคของเกษตรกร ซึ่งจะประกาศรายละเอียดและวิธีการต่อไป ด้านสาธารณสุข จะมีการจัดงบประมาณไว้เพิ่มเติม ส่วนพ.ร.ก.ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาตรการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษวงเงิน 500,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อใหม่ 500,000 ล้านบาทเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง  คิดอัตราดอกเบี้ย 2% สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 50 ล้านบาท ควบคู่กับการให้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเช่าซื้อที่ไม่ใช่ธนาคารพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน จากเดิม 3 เดือน ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท

สำหรับพ.ร.ก.ดูแลเสถียรภาพภาคการเงินวงเงิน 400,000 ล้านบาทสำหรับตั้งกองทุนรวม(Corporate Bond Liquidity Stabilization Fund: BSF)และให้ ธปท. สามารถซื้อขายหน่วยลงทุนในกองทุนดังกล่าว